วันพุธที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2560

เที่ยวลำพูน สัมผัส 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่งดงาม

1. พระธาตุหริภุญชัย

พระธาตุหริภุญชัย

           ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน มีถนนล้อมรอบสี่ด้าน ถือเป็นพระธาตุประจำปีเกิดชาวปีระกา และนับเป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งในล้านนามาตั้งแต่สมัยโบราณ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1651 ในสมัยพระเจ้าอาทิตยราช ราชกษัตริย์วงศ์รามัญผู้ครองนครลำพูน แม้องค์จะไม่ใหญ่โตแต่สร้างขึ้นด้วยทรวดทรงที่สมส่วน และงดงามด้วยประกายทองจังโกที่สะท้อนเปลวแดดขับให้องค์พระธาตุดูโดดเด่น ท่ามกลางวิหารอื่น ๆ โดยตามตำนานเล่าว่า 1,000 ปีก่อน เคยเป็นวังของพระเจ้าสรรพสิทธิ์ เมื่อพระองค์ทรงขุดพบพระบรมสารีริกธาตุหรือพระเกศาธาตุ จึงโปรดให้ก่อองค์พระธาตุขึ้น จนเมื่อ 500 ปีก่อน ในสมัยพระเจ้าติโลกราชได้โปรดให้ก่อพระธาตุแบบลังกาครอบองค์เดิมดังปรากฏในปัจจุบัน นอกจากนี้ ภายในวัดยังมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงศิลปวัตถุมากมาย อีกทั้งในวันเพ็ญเดือน 6 จะมีงานนมัสการและสรงน้ำพระบรมธาตุทุกปี สอบถามรายละเอียด โทรศัพท์ 0 5331 1104 หรือเว็บไซต์ hariphunchaitemple.org

 2. อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย

อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย

           อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ตั้งอยู่เชิงดอยติ บริเวณวัดดอยติ ตำบลป่าสัก ห่างจากตัวเมืองลำพูนประมาณ 5 กิโลเมตร ตามถนนสายเชียงใหม่-ลำปาง พระครูบาศรีวิชัยเป็นพระเถรเจ้านักพัฒนาแห่งล้านนาไทย ผู้พัฒนาทั้งด้านจิตใจและด้านถาวรวัตถุให้แก่ชาวล้านนาไว้อย่างอเนกอนันต์ ท่านมีชีวิตอยู่ในช่วงปี พ.ศ. 2421-2481 ถิ่นฐานบ้านเดิมของท่านอยู่ที่บ้านแม่ตื่น อำเภอลี้ จึงเป็นความภูมิใจอย่างใหญ่หลวงของชาวลำพูน ที่เมืองนี้เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของนักบุญผู้ยิ่งใหญ่แห่งล้านนา

 3. วัดพระพุทธบาทตากผ้า

วัดพระพุทธบาทตากผ้า

           วัดนี้เป็นปูชนียสถานสำคัญของจังหวัดลำพูน บนม่อนดอยเบื้องหลังวัดได้มีการสร้างพระเจดีย์ ซึ่งเป็นศิลปะที่ผสมผสานจากพระธาตุดอยสุเทพและพระธาตุหริภุญชัย โดยมีบันไดนาค 469 ขั้น เชื่อมระหว่างเจดีย์บนม่อนดอยกับวัดพระบาทตากผ้าที่เชิงดอย ปัจจุบันสามารถนำรถขึ้นไปได้ เมื่อถึงวันอัฐมีบูชา แรม 8 ค่ำ เดือนแปด ซึ่งเป็นวันคล้ายวันถวายพระเพลิงพระสรีระของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่วัดมีประเพณีสรงน้ำพระพุทธบาทเป็นประจำทุกปี ติดต่อได้ที่ โทรศัพท์ 0 5357 2961, 0 5300 5200 หรือเว็บไซต์ phrabat.com การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข 106 บริเวณกิโลเมตรที่ 136-137 เข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร

 4. วัดพระธาตุดอยเวียง

           วัดพระธาตุดอยเวียง ตั้งอยู่ที่หมู่ 9 บ้านดอยเวียง ตำบลบ้านธิ ห่างจากอำเภอบ้านธิประมาณ7 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 15 ไร่ และบนดอยเป็นที่ประดิษฐานเจดีย์เก่าแก่ซึ่งมีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุอยู่  สันนิษฐานว่าสร้างเมื่อ พ.ศ. 1220 ในสมัยพระนางจามเทวี ตามตำนานจารึกในใบลานเล่าว่าขุนหลวงปาละวิจา มาตั้งเมืองที่นี่ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านและได้สร้างวัดไว้บนดอย ต่อมาถูกไฟป่าไหม้ลุกลามทำให้เหลือแต่เจดีย์และศาลาเล็ก ๆ หลังหนึ่ง วัดนี้ยังมีพระพุทธรูปเก่าแก่อีก 3 องค์ องค์แรกเป็นพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ปางมารวิชัยหน้าตักกว้าง 29 นิ้ว มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งฝนแล้ง ชาวบ้านเดือดร้อนเลยนำพระองค์นี้มาแห่ขอฝนปรากฏว่าฝนตก ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันตั้งชื่อพระองค์นี้ว่า "พระเจ้าสายฝน" องค์ที่สองหน้าตักกว้าง 99 นิ้ว ประดิษฐานที่ศาลาการเปรียญ องค์ที่สามหน้าตักกว้าง 89 นิ้วประดิษฐานที่เชิงดอย ทั้งสององค์ข้างในเป็นศิลาแลงและข้างนอกฉาบปูน สมัยที่ค้นพบนั้นเหลือไม่เต็มองค์เศียรปักดินชาวบ้านจึงเรียกว่า "พระเจ้าดำดิน" ชั้นบนสุดของดอยเป็นที่ประดิษฐานของเจดีย์ธาตุดอยเวียง และทุก ๆ ปีในวันแรม 8 ค่ำ เดือน 7 จะมีประเพณีสรงน้ำพระธาตุ

 5. อุทยานแห่งชาติแม่ปิง

อุทยานแห่งชาติแม่ปิง

           อุทยานแห่งชาติแม่ปิง มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน และอำเภอสามเงา จังหวัดตาก เป็นป่าที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้และสัตว์ป่า มีทิวเขาทอดยาวเหยียดสลับซับซ้อน ลำห้วยน้อยใหญ่หลายสิบสาขาไหลผ่านที่สำคัญ คือ ลำห้วยแม่หาด ลำห้วยแม่ก้อ และทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามโดยเฉพาะพื้นที่ป่าตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายของลำน้ำปิงตอนเหนือของอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล มีเนื้อที่ประมาณ 627,346 ไร่ หรือ 1,003.7536 ตารางกิโลเมตร โดยมียอดเขาที่สูงที่สุดชื่อ "ดอนห้วยหลาว" อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มีความสูงประมาณ 1,334 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง

อุทยานแห่งชาติแม่ปิง

           สำหรับสถานที่ท่องเที่ยว เช่น น้ำตกก้อหลวง เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมาก เกิดจากลำห้วยแม่ก้อซึ่งไหลผ่านเทือกเขาหินปูนลดหลั่นลงมา 7 ชั้น ลงสู่แอ่งน้ำสีเขียวมรกตขนาดใหญ่ บริเวณหน้าผาริมน้ำตกยังเกิดหินงอกหินย้อยสวยงาม, แก่งก้อ เป็นทะเลสาบส่วนหนึ่งของอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล เดิมเป็นจุดที่ห้วยแม่ก้อไหลลงสู่แม่น้ำปิงแต่ภายหลังการสร้างเขื่อนภูมิพลระดับน้ำได้สูงท่วมพื้นที่ จนกลายเป็นทะเลสาบซึ่งมีทัศนียภาพอันงดงาม นักท่องเที่ยวนิยมมาพักเรือนแพและนั่งเรือชมความงามของหน้าผาหินปูน ซึ่งเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยและป่าเบญจพรรณริมฝั่งน้ำ และทุ่งกิ๊ก เป็นทุ่งหญ้าธรรมชาติกว้างใหญ่ซึ่งอยู่ท่ามกลางป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณ จึงเป็นแหล่งอาศัยหากินของสัตว์ป่า ในช่วงฤดูแล้งประมาณเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ดอกไม้ป่าหลายชนิดจะพากันบานเต็มทุ่งกิ๊กสวยงามน่าชมมาก นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติและดูนก ซึ่งนกที่พบเห็นได้ง่าย เช่น นกหัวขวาน ฯลฯ 

           ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติแม่ปิง ตู้ ป.ณ. 18 อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน 51110 โทรศัพท์ 0 5354 6336, 0 5351 8060 หรือกรมอุทยานแห่งชาติฯ โทรศัพท์ 0 2562 0760  หรือเว็บไซต์ park.dnp.go.th

 6. วัดจามเทวี

วัดจามเทวี

           วัดจามเทวี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า วัดกู่กุด ตั้งอยู่หมู่ 5 ริมถนนจามเทวี ตำบลในเมือง สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. 1298 ฝีมือช่างละโว้ ลักษณะพระเจดีย์เป็นสี่เหลี่ยมแบบพุทธคยาในประเทศอินเดีย แต่ละด้านมีพระพุทธรูปยืนปางประทานพรอยู่เป็นชั้น ๆ ภายในเจดีย์บรรจุอัฐิของพระนางจามเทวีปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญไชย ตามตำนานเล่าว่าเจ้าอนันตยศและเจ้ามหันตยศ ราชโอรสของพระนางจามเทวีได้สร้างขึ้น เพื่อบรรจุอัฐิของพระนางเมื่อปี พ.ศ. 1298 เดิมมียอดห่อหุ้มด้วยทองคำ ต่อมาจะเป็นสมัยใดไม่ทราบชัด ยอดพระเจดีย์หักหายไปชาวบ้านจึงเรียกว่า "กู่กุด" หรือมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า "พระเจดีย์สุวรรณจังโกฏ" นอกจากนั้นยังมีรัตนเจดีย์ ซึ่งตั้งอยู่ทางขวาของวิหาร สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 17 โดยพระยาสรรพสิทธิ์ ฐานล่างสุดเป็นรูป 8 เหลี่ยม มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 4.40 เมตร สูงจรดยอด 11.50 เมตร องค์เจดีย์เป็นรูปสี่เหลี่ยม แต่ละเหลี่ยมเจาะเป็นซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปยืนก่ออิฐถือปูนทั้งองค์

 7. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหริภุญไชย

           พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหริภุญไชย ตั้งอยู่ถนนอินทยงยศเยื้องกับวัดพระธาตุหริภุญชัย เริ่มก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2470 โดยพระยาราชกุลวิบูลย์ภักดีสมุหเทศาภิบาลมณฑลพายัพ ต่อมากรมศิลปากรได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารแห่งใหม่เสร็จเมื่อ พ.ศ. 2517 ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงโบราณวัตถุแบ่งเป็น 3 ห้อง คือ ห้องจัดแสดงใหญ่ เป็นห้องโถงยาวอยู่ชั้นบนของตัวอาคารมีการจัดแสดงวัตถุออกเป็น 3 สมัย คือ สมัยก่อนหริภุญไชย สมัยหริภุญไชย และสมัยล้านนา ได้แก่ พระพุทธรูป เศียรพระพุทธรูป พระพิมพ์ และเทวดา เป็นต้น, ห้องจัดแสดงศิลปพื้นบ้านและเครื่องไม้จำหลัก เป็นห้องจัดแสดงเล็กที่อยู่อาคารเล็กชั้นเดียวมีโถงเชื่อมจากชั้นบนของอาคารหลังใหญ่ วัตถุที่แสดงเป็นศิลปะสมัยล้านนา รัตนโกสินทร์ แสดงออกถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น เครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องมือตีเหล็ก เครื่องมือทอผ้า เครื่องดนตรีพื้นบ้าน พานดอกไม้เชี่ยนหมาก เป็นต้น และห้องศิลาจารึก เป็นห้องโถงเปิดโล่งอยู่ชั้นล่างของตัวอาคาร จัดแสดงศิลาจารึกสมัยหริภุญไชย ราวพุทธศตวรรษที่ 17 และศิลาจารึกสมัยล้านนา สมัยพุทธศตวรรษที่ 20 เป็นต้นไป 

          ทั้งนี้ ที่นี่เปิดทำการวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 09.00 น. ถึง 16.00 น. ปิดวันจันทร์ วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 5351 1186 หรือเว็บ haripunchaimuseum.net และ เฟซบุ๊ก พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หริภุญไชย ลำพูน

 8. ถนนคนเดินจังหวัดลำพูน
           ถนนคนเดินจังหวัดลำพูน จัดขึ้นที่ถนนรอบเมืองในบริเวณหน้าประตูนครหริภัญชัย อินทยงยศ อำเภอเมืองลำพูน "คืนวิถีชีวิตให้ชุมชน คืนถนนให้คนเดิน" จำหน่ายสินค้าพื้นเมือง สินค้าทำมือ อาหารอร่อยขึ้นชื่อของเมืองลำพูน นอกจากจะได้เลือกซื้อสินค้าแล้วที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของวัดเก่าแก่ จวนผู้ว่าฯ บ้านเก่าในอดีต วัดพระธาตุ มีการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมด้านหน้าพิพิธภัณฑ์อีกด้วย ทั้งนี้ ถนนคนเดินเปิดขายทุกวันศุกร์ ตั้งแต่เวลาประมาณ 15.00 น. เป็นต้นไป

 9. The Sun New Center

The Sun New Center

           แรงบันดาลใจที่เนรมิต The Sun New Center ของ คุณสุรพล ดวงเกิด ผู้รักธรรมชาติและอยากมอบความสุขให้แก่บ้านเกิด ด้วยมุมมองของนักธุรกิจที่ต้องเหน็ดเหนื่อยกับการทำงาน จึงหาเวลาพักผ่อนในวันหยุดพาครอบครัวไปท่องเที่ยวธรรมชาติ บนเนื้อที่ 50 ไร่ พื้นที่ติดภูเขา ลมพัดเย็นสบายตลอดทั้งวัน จัดแบ่งเป็นโซนสวนน้ำ 7 ไร่ และโซนเครื่องเล่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ทากาด้า จานหมุนยักษ์มหัศจรรย์, Water Ball ลูกบอลน้ำ, สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้นพบกับเครื่องเล่น Adventure เช่น รถ ATV, บันจี้จัมพ์, เก้าอี้หมุนอวกาศ และเรือไวกิ้ง นอกจากนี้ ยังมีเครื่องเล่นสำหรับเด็กเล็กอย่างรถมินิ บ้านลม เจ็ทการ์ตูน และชิงช้าสวรรค์สูง 18 เมตร ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพของโครงการ ในมุมสูง Bird’s eye view ได้อย่างจุใจ โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ thesunnewcenter.com
 10. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงพระบาทห้วยต้ม 

ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงพระบาทห้วยต้ม

          โครงการหลวงเพียงแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดลำพูน ตำบลนาทราย อำเภอลี้ มีพื้นที่รับผิดชอบ 24,631 ไร่ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 480-500 เมตร มีหมู่บ้านในความรับผิดชอบ 9 หมู่บ้าน โดย 8 หมู่บ้านเป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงที่บริโภคอาหารมังสาวิรัติ ได้แก่ กะเหรี่ยงโปว์และกะเหรี่ยงสะกอ ซึ่งสภาพพื้นที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลไม่มากนัก ความโดดเด่นของพื้นที่แห่งนี้นอกจากเป็นแปลงสาธิตในศูนย์ฯ แล้ว ยังมีเรื่องราวของวัฒนธรรมประเพณีของชาวเขาเผ่ากระเหรี่ยงกับวิถีชีวิตที่น่าสนใจ โดยในปี พ.ศ. 2521 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จเยี่ยมราษฎรบ้านพระบาทห้วยต้ม ทรงทอดพระเนตรเห็นสภาพพื้นที่และชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรชาวเขา ทรงมีพระราชดำริว่า "หมู่บ้านแห่งนี้ขาดแคลนที่ทำกิน ชาวบ้านเป็นโรคขาดสารอาหาร โดยเฉพาะเด็ก ๆ และชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงได้อพยพมารวมกันอยู่เช่นนี้เป็นผลดีในการหักล้างทำลายป่า ลดพื้นที่ปลูกฝิ่นทางอ้อม จะได้ไม่ไปรับจ้างชาวเขาเผ่าอื่นอีกด้วย" จากนั้นทรงมีพระกรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ รับหมู่บานพระบาทห้วยต้มอยู่ในการดูแลของมูลนิธิโครงการหลวง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น